Introl
“ออกห่างจากองค์หญิงเดี๋ยวนี้ สเลน
ทรอยยาร์ท” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
ไม่แพ้กับกระบอกปืนสีเงินที่จ่อลงมาบนหน้าผากของเด็กหนุ่มผมสีอ่อน
“นายมัน...เจ้าหุ่นสีส้มตอนนั้น”
เขายิ้ม ชุดนักบินที่รัดรูปและเต็มไปด้วยสายรัดกำลังทำให้เด็กหนุ่มหายใจไม่ออก
ศีรษะที่มีบาดแผลจากการกระแทกนั้นเลือดไหลไม่หยุดเขายกมือขึ้นกุมแผลนั้นเงียบๆ
มองอะไรแทบจะไม่เห็นแล้วเพราะสติที่พร่าเลือน
มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ค่อยๆใช้มันท้าวตัวขึ้นยืนเพื่อประจันหน้ากับอีกฝ่าย “ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ?”
“นายมันก็แค่เด็กอ่อนหัด” แกร่ก... เสียงปลดเซฟตี้ดังขึ้นในความเงียบ แต่คนถูกว่ากลับยังระบายยิ้ม
เพื่อยอมรับและสมเพชในชะตากรรมของตัวเอง
เขาหันหลังกลับไปมองร่างของหญิงผู้เป็นที่รักเงียบๆ
หญิงสาวผมสีทองสลวยที่ตอนนี้นอนจมกองเลือดเพราะถูกทหารที่ทรยศของฝั่งโลกยิง
เจ้าทหารอวดดีนั่นแน่นอนว่าถูกจัดการด้วยปืนสีดำในมือของเขาไปเรียบร้อยแล้ว
และเพราะเหตุนั้นตอนนี้เขาจึงไม่มีกระสุนเหลือพอจะปกป้องตัวเองจากปากกระบอกปืนที่กำลังจ่อหน้าอยู่ได้
“อึก...” สเลนกัดฟันแน่น
ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความเครียด
เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นประปราย
เขาอยากจะช่วยองค์หญิง ช่วยผู้หญิงที่นอนสลบไม่ได้สติตรงนั้นก่อนสิ่งใด
“ไคซึกะ...อินาโฮะ
ทั้งๆที่นายก็เป็นชาวโลกเหมือนผม แต่ทำไม...” เด็กหนุ่มค่อยๆหลับตาลง
“สัญญากับผมได้ไหม ถ้านายฆ่าผมแล้วต้องรีบช่วยเธอทันที
ช่วยคุณเซลัม...องค์หญิงของพวกนาย”
ใบหน้าของทหารหนุ่มยังคงเรียบเฉย นัยน์ตาสีแดงเข้มเหมือนเลือดนั้นทอประกายไหววูบบางอย่างขึ้นมา
ก่อนจะค่อยๆลดปืนลงโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว....
เขาลืมตาขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจ ‘ทำไม?’
อินาโฮะเดินผ่านร่างของสเลนไป
เขาค่อยๆช้อนร่างของเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิเวิร์ส
เจ้าหญิงที่เขาแสนจะรักและจงรักภักดีขึ้นมาเงียบๆ
เกลี่ยผมของเธออย่างรักใคร่และโหยหา
ริมฝีปากได้รูปนั้นค่อยๆกระตุกขึ้นกลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับรอยยิ้ม
ทำให้ใบหน้าตึงเครียดของเขาดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย “ตามมาสิ ค้างคาว” พูดพลางจ่อปืนกลับมาอีกครั้ง
“ตามมา.... หมายถึง..” สเลนยังไม่เข้าใจ “ห้องที่มีอุปกรณ์แพทย์
ฉันจะผ่าตัดให้เธอเอง” นัยน์ตาสีน้ำทะเลเบิกกว้างขึ้น
แม้จะรู้สึกชาจากบาดแผล
แต่เวลานี้สติของเขากลับค่อยๆแจ่มชัดและได้ยินเสียงที่อีกฝ่ายพูดอย่างชัดเจน
ขาที่ยืนอย่างไม่มั่นคงรีบก้าวออกไปอย่างเร่งรีบ เพื่อเดินตามนายทหารเวิร์สให้ทัน
“คะ..คุณทำได้อย่างงั้นหรอครับ”
ฝ่ามือเรียวเกาะไปตามผนังเพื่อใช้พยุงร่าง
“ไม่รู้สิ...” เขาหลุบตาลง ใบหน้าขรึมนั้นฉายความกังวลอยู่ไม่น้อย “แต่ฉันจะทำให้ได้” ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มักจะเป็นเช่นนี้
สิ่งใดที่เด็กหนุ่มอย่างไคซึกะ อินาโฮะไม่รู้จักหรือทำไม่ได้นั้น เขาก็มักจะศึกษาวิธีการจนชำนาญและทำได้ในที่สุด
ไม่ว่าสิ่งที่ยากเย็นและราวกับปาฏิหาริย์แค่ไหนเขาก็สามารถสร้างมันได้
ตรงข้ามกับด้านความรู้สึกของเขา
ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็สื่อออกไปไม่เก่งเอาเสียเลย
และนั่นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาถูกเกลียดจากทหารเวิร์สด้วยกัน เพราะเป็นแค่เด็กหนุ่มชาวโลกแต่กลับได้รับความไว้วางใจจากราชาแห่งเวิร์สและถูกแต่งตั้งให้เป็นอัศวินขององค์หญิงตั้งแต่ยังหนุ่มด้วยอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น
ก่อนที่อัสเซลัมจะเดินทางมาที่โลกนั้นล้วนมีข่าวลือหนาหูว่า ในอนาคตอินาโฮะจะต้องได้แต่งงานกับองค์หญิงอย่างแน่นอน
และนั่นก็เป็นเรื่องที่คนอื่นพูดถึงกัน
“พูดจาไม่รับผิดชอบเลยนะครับ!
ถ้าเซลัมซังเป็นอะไรขึ้นมาคุณจะว่ายังไง” สเลนตะโกนเสร็จก็ไอโคล่กเสียงดัง
ทำให้คนที่เดินกึ่งวิ่งนำหน้าอยู่หันมามอง “อย่าเรียกองค์หญิงแบบนั้น...
ค้างคาว”
“เจ้าสีส้ม...” สเลนได้แต่ข่มความไม่พอใจเอาไว้ เมื่อพบว่าอีกฝ่ายเดินเข้าไปในห้องที่เขียนด้วยอักษรเวิร์สห้องหนึ่ง
เขาอ่านมันออกเป็นคำว่า ‘ห้องพยาบาล’ ก่อนจะลากขาตัวเองผลักประตูตามเข้าไป
อินาโฮะวางร่างของอัสเซลัมไว้บนเตียง
ปลดสายรัดและชุดนักบินรัดรูปออกเพื่อให้เธอหายใจได้สะดวก เขามองเห็นสร้อยคอสีเงินสร้อยหนึ่งที่ไม่คุ้นตาอยู่บนลำคอขาวนั้นอย่างแปลกใจเล็กน้อย
ก่อนจะก้มลงวัดที่ชีพจรของเธอ
แม้จะเป็นเพียงจังหวะที่แผ่วเบา
แต่มันก็กำลังเต้นอยู่... สัมผัสที่บ่งบอกว่าเธอยังมีชีวิต
“ค้างคาว หยิบมีดผ่าตัด แอลกอฮอลล์
สำลีซับเลือด แล้วก็อุปกรณ์ในตู้นั่นทั้งหมดมาให้ผม”
เขาถอดถุงมือสีขาวที่มักจะสวมอยู่ออกแล้วเปลี่ยนมาสวมถุงมือกับหน้ากากปลอดเชื้อ
ฉีดยาชาที่ข้อมือบริเวณเส้นเลือดใหญ่ให้อีกฝ่าย
ก่อนเขาจะพบว่าร่างที่หอบหายใจรวยรินนั้นค่อยๆสงบลง
สเลนเมื่อได้ยินอีกฝ่ายสั่งก็ทำตามอย่างไม่ขัดข้องใดๆ
แม้เขาจะนึกไม่ชอบใจอีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไรนัก
ในฐานะศัตรูเขาทั้งสองไม่ควรจะญาติดีกันได้
แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำอะไรที่เหมือนจะเป็นการเอาชีวิตเขาเลย
ทั้งๆที่เคยสอยอีกฝ่ายร่วงตกน้ำแท้ๆ “....” เด็กหนุ่มเองก็หยิบหน้ากากและเสื้อคลุมขึ้นมาสวมเช่นกันเพราะตั้งใจจะช่วยอีกฝ่าย
อย่างน้อยให้เขามองหน้าเซลัมซังในระยะใกล้ๆยังดี
จะได้อุ่นใจได้บ้างว่าเธอไม่เป็นอะไร
แต่อินาโฮะกลับขมวดคิ้วมองเขา “คนเจ็บน่ะไปนั่งซะ...อีกอย่างนายมาก็ช่วยอะไรผมไม่ได้” ก่อนจะหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาถือในมือ
ลงมือกรีดมันลงไปบนแผ่นอกข้างซ้ายเหนือบริเวณหัวใจเล็กน้อย..
“แต่ว่า...” เขาพยายามจะหาเหตุผลมาเถียงบ้าง
“...งั้นนายก็ไปเฝ้าต้นทางให้ที” เด็กหนุ่มผมสีเข้มพูดออกมาอย่างเสียไม่ได้
สายตาของเขาไม่ได้ละจากการผ่าตัดเลยแม้แต่น้อย เหงื่อมากมายผุดบนใบหน้า ลำคอ
และแผ่นหลังของเขาเพราะความกดดันที่เกิดขึ้น
เมื่อเด็กหนุ่มอีกคนเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้า...
เวลานี้พวกเขายังอยู่ในช่วงสงคราม
ยังมีทหารชาวโลกและทหารเวิร์สจำนวนหนึ่งต่อสู้กันอยู่ทั้งในและบริเวณรอบนอกของปราสาท
กลิ่นเขม่าดินปืนและกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศเป็นหลักฐานอย่างดี
สเลนค่อยๆนั่งลงพิงประตูบานนั้นไว้
เขาถือกระบอกปืนสีเงินที่อินาโฮะเป็นคนส่งให้เอาไว้แน่น
สายตาสอดส่องไปซ้ายทีขวาทีอย่างระแวดระวัง แม้สถานการณ์จะยังไว้ใจไม่ได้
แต่เซลัมซังที่ถูกรักษาโดยเด็กหนุ่มอีกคนนั้น ใบหน้าเรียบเฉยที่แนวแน่ไร้ความลังเลนั้น
ทำให้เขารู้สึกวางใจจนเผลอหลับไปเพราะความอ่อนเพลียจากบาดแผลทั้งอย่างนั้น
==============================================================
สเลนฝัน....เขามองเห็นอัสเซลัมที่หัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุขในฝันนั้น เธอกำลังจับมือของเขาและหมุนไปรอบๆ
ชี้ให้ดูท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่ที่เธอไม่เคยได้เห็น
นกนางนวลบินรับลมเหนือทะเลมากมายทำให้เธอเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้น
ทั้งหมดนั้นฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเขา... ความทรงจำที่แสนมีค่าของเขา
สเลนเคยมอบสร้อยคอของดูต่างหน้าให้กับอัสเซลัมเอาไว้
เวลานั้นเขายังไม่รู้ว่าเธอคือเจ้าหญิงแห่งเวิร์ส
เขาเพียงแต่อยากทำให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่กำลังสั่นเพราะความกลัวได้อบอุ่นใจ
เธอกล่าวขอบคุณและมอบรอยยิ้มที่งดงามให้เขา
ตลอดมาสร้อยคอเป็นสิ่งที่คอยปกป้องเขามาตลอด เป็นของล้ำค่าจากพ่อชิ้นสุดท้าย
แต่ถ้าหากสิ่งนั้นจะช่วยสร้างเป็นรอยยิ้มของหญิงสาวได้
เขาก็ยินดีจะมอบมันให้เธอตลอดไป เพราะสิ่งที่ล้ำค่ากว่าสร้อยเส้นนั้น
สเลนได้พบมันแล้ว
มันก็คือความรักที่อยากจะมอบให้เธอ ความรักที่บริสุทธิ์และไม่หวังสิ่งตอบแทน...
==============================================================
“เท่านี้ก็....เรียบร้อย” ในที่สุดอินาโฮะก็เย็บปากแผลจนสำเร็จ
เขาปฐมพยาบาลบาดแผลถลอกส่วนอื่นๆตามร่างกายของหญิงสาวให้อีกเล็กน้อย
ก็จัดการเก็บอุปกรณ์และห่มผ้าให้เธอได้นอนพักผ่อน
เมื่อเขาเห็นว่าร่างของเธอหายใจเข้าออกเป็นปกติดีแล้วและกำลังหลับลึกก็เดินหยิบกล่องยาออกมาที่หน้าประตูห้อง
เด็กหนุ่มชาวโลกกำลังหลับตาพริ้ม
ท่าทางตอนหลับนั้นดูน่าเอ็นดูเขาหายใจเบาๆคล้ายคนกำลังหลับลึก
ร่างกายที่มีบาดแผลคู้ตัวพิงอยู่ที่ผนังแสตนเลสเย็นๆ อินาโฮะนั่งลงตรงหน้าร่างนั้น
ปัดเส้นผมสีอ่อนที่เกะกะใบหน้าออกลวกๆ ก่อนจะลงมือชุบแอลกอฮอลล์และทำแผลให้กับเขา
ร่างของสเลนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนนัยน์ตาเหมือนแมวคู่นั้นจะตื่นขึ้นมาสบตากับคนหวังดี(?)
“อะ...เสร็จแล้วหรอครับ” เขานั่งตัวแข็ง รู้สึกได้ถึงความแสบบริเวณแผลที่ถูกกด
และลมหายใจอุ่นจากอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้กันจนเป่ารดแก้มของเขา “อืม”
คนทำแผลแค่ตอบรับในลำคอ
แล้วขะมักเขม้นกับการทำแผลไปไม่สนใจเจ้าของคำถามแม้แต่น้อย
“เซลัมซัง...ตอนนี้ปลอดภัยแล้วสินะครับ”
เขาพยายามจะยิ้มให้
เกาหัวพลางหัวเราะแห้งไปด้วยเพราะไม่รู้จะชวนอีกฝ่ายคุยอะไร
แต่ก็ไม่อยากอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนอึดอัด สเลนแอบลอบมองอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มที่ทำแผลให้เขานั้นมีใบหน้าเคร่งขรึมดูราวกับไร้อารมณ์
ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีน้ำตาลตัดสั้นที่รับกับนัยน์ตาสีแดงเข้มเหมือนเลือด
สายตาของเขาไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ แต่เหมือนทอดยาวออกไปที่ไหนสักแห่ง
ริมฝีปากเรียวได้รูปนั้นก็ไม่เคยแย้มยิ้มให้ใครเห็น เอาแต่ทำสีหน้าปั้นยากชวนให้คนอื่นอึดอัด
รวมๆแล้วก็เป็นเด็กหนุ่มที่ดูสุขุมหน้าตาดีคนหนึ่ง
ท่าทางอายุไม่ต่างจากสเลนมากนัก
สิ่งเดียวที่เขารู้เกี่ยวกับเจ้าตัวก็คือชื่อและสัญชาติ
แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาถึงได้กลายเป็นทหารของจักรวรรดิเวิร์ส
และที่ไม่เข้าใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ช่วยชีวิตเขาที่เป็นศัตรูเอาไว้..
นัยน์ตาสีน้ำทะเลค่อยๆหลุบลงต่ำ ....
เป็นเวลาเดียวกับที่เด็กหนุ่มชาวเวิร์สหันมาสนใจ
“แผลที่อื่นนอกจากหัวล่ะ?” อินาโฮะละมือออก ร่างกายที่เคยอยู่ใกล้กัน เขยิบห่างออกมาเล็กน้อยเพื่อมองสำรวจ
ฝ่ามือหนาเอื้อมมาเตรียมปลดชุดนักบินที่ทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบายออกให้อย่างถือวิสาสะ
“ดะ...เดี๋ยวก่อนครับ!” สเลนสะดุ้งโหยง เขาจะผละตัวออกแต่ก็ไม่ทันคนคุกคามที่เร็วกว่า เด็กหนุ่มปลดเสื้อผ้าที่คลุมร่างกายส่วนบนของร่างโปร่งออก
ก่อนนัยน์ตาสีแดงนั้นจะเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ
“แผลพวกนี้... ” เขาทาบฝ่ามือลงบนหน้าอกเปลือยเปล่า
ผิวที่ขาวซีดอยู่แล้วของเด็กหนุ่มยิ่งขับให้บาดแผลที่เกิดจากการลงแส้ดูเด่นชัดขึ้น
มันเป็นแผลเป็นที่ไม่มีวันหาย แผลเป็นที่เกิดจากการดื้อรั้นของเขา...
สเลนหลบสายตาที่มองมา เขาไม่อยากถูกสงสาร ไม่อยากโดนมองด้วยความเวทนา
ความเจ็บใจค่อยๆกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำใสที่ขอบตา
เขากัดปากแน่น...พยายามข่มความรู้สึกของตัวเองไม่ให้เผยออกมา
อินาโฮะที่มองภาพนั้นจึงเงียบไปในชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ขอโทษ...” เขาเอามือออกจากร่างของอีกฝ่าย “นายไม่เจ็บตรงไหนก็ดีแล้วล่ะ”
“....เดี๋ยว..ก่อน” สเลนยังคงก้มหน้า แต่ก็ตัดสินใจคว้าชายเสื้อของอีกฝ่ายไว้ก่อนที่เขาจะลุกหายไป
“.....” คนถูกเรียกไม่พูดอะไร เขาเดินกลับมานั่งลงข้างๆแล้วสบตากับอีกฝ่าย
รอสิ่งที่เจ้าตัวต้องการจะบอก
“อย่าบอกใคร...อยากบอกเซลัมซังเลยนะครับ
ผมขอร้อง” ฝ่ามือเล็กนั่นกำลังสั่นเทา “เรื่องแบบนี้..เกิดขึ้นกับผมอยู่บ่อยๆ
ผมไม่อยากให้เธอเป็นห่วง..เพราะงั้น..” เขาไม่รู้ว่าเวลาแบบนี้ตัวเองควรทำเช่นไร
ทำไมถึงได้ปล่อยให้น้ำตาไหลต่อหน้าศัตรู ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอ
หนำซ้ำยังยึดเกาะเขาไว้ราวกับเป็นที่พึ่งสุดท้ายแบบนี้
อา...นั่นสินะ ก่อนหน้าที่จะได้พบเธอ
เราก็ตัวคนเดียวมาตลอด “.....” ฝ่ามือที่ถูกคลุมด้วยถุงมือสีขาวเอื้อมมาปาดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา
“ถ้าไม่อยากให้ฉันบอก...ก็อย่าร้อง” คนโดนออกคำสั่งได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งให้
“ถ้ามีคุณอยู่ข้างๆ เซลัมซังต้องปลอยภัยอย่างแน่นอนสินะครับ”
คนถูกถามทำเพียงแค่หลุบสายตาลง
“มันเป็นหน้าที่ของฉัน” นัยน์ตาสีน้ำทะเลค่อยๆกลับมาสดใสอีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบ “ปากแข็ง...”
==============================================================
“ยังไงก็เถอะ แผลเป็นพวกนี้มันมีวิธีรักษาอยู่เยอะแยะ
ทำไมถึงได้ปล่อยให้มันอยู่มานานตั้งสองปีกัน” คนที่ทำหน้าที่เป็นหมอจำเป็นบ่นไปก็สาละวนกับการทายาให้อีกฝ่ายไปด้วย
ตัวยาสีใสที่มีสัมผัสเย็นเฉียบถูกบีบออกจากหลอด
ฝ่ามือหนาที่ตอนนี้ถอดถุงมือสีขาวออกเพื่อที่จะช่วยทายาให้เกลี่ยไปทั่วบริเวณแผ่นอกขาวๆ
ที่ค่อนข้างจะขาวซีดเกินไปหน่อยสำหรับเด็กหนุ่มที่อยู่ในกองทัพอย่างเขา
ราวกับไม่ได้รับการฝึกใดๆที่ทำให้ต้องลำบากเลย
ตรงกันข้ามกับแผลเป็นมากมายที่เกิดขึ้นบนร่างกาย
“..!!” สเลนสะดุ้งเป็นพักๆเวลาที่ยาถูกป้ายลงบนเนื้อ
ก็จริงที่ว่าแผลเหล่านี้เป็นแค่แผลเป็นที่เกิดขึ้นมายาวนานแล้ว
แต่ยามที่ไปจับถูกมันก็ยังเจ็บอยู่บ้าง
ไหนจะแรงมือที่กดไม่บันยะบันยังของอีกฝ่ายอีก
ทำเอาเด็กหนุ่มกลั้นเจ็บจนน้ำตาที่แห้งไปแล้วปริ่มออกมาที่ขอบตาอีกครั้ง
TBC. (ล่ะมั้ง?)
========================================================
AU สลับบทบาทค่ะ โฮะเป็นสเลน! สเลนเป็นโฮะ! ตกใจรึเปล่าคะะะะะ ?!!
(แอบซ่อนเอาไว้มานาน ลงเท่าที่แต่งไว้นี่ล่ะ ///โดนถีบ)